ค่าใช้จ่ายบริษัท: 10 รายการที่ธุรกิจขนาดเล็กห้ามพลาดในการลดหย่อนภาษี

ค่าใช้จ่ายบริษัท: 10 รายการที่ธุรกิจขนาดเล็กห้ามพลาดในการลดหย่อนภาษี

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจในรูปแบบบริษัท คือความสามารถในการนำ “ค่าใช้จ่าย” ต่างๆ มาหักลบออกจากรายได้ เพื่อคำนวณกำไรสุทธิสำหรับเสียภาษี ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้อย่างมหาศาล แต่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหลายคนมักจะพลาดโอกาสนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เพียงเพราะไม่แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้ได้

เพื่อให้คุณไม่พลาดสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ควรจะได้รับ นี่คือ Checklist 10 ค่าใช้จ่ายบริษัทที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษี ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

หลักการสำคัญ: ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่ “เกี่ยวข้องกับธุรกิจ”

ก่อนจะไปดูรายการต่างๆ ต้องจำกฎเหล็กของกรมสรรพากรไว้ให้ขึ้นใจ นั่นคือ ค่าใช้จ่ายนั้นจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกิจการโดยเฉพาะ มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้หรือการดำเนินงานของบริษัท และที่สำคัญที่สุดคือต้องมี “เอกสารหลักฐาน” ที่พิสูจน์ได้

 

Checklist 10 ค่าใช้จ่ายบริษัทช่วยประหยัดภาษี

1. เงินเดือนกรรมการและพนักงาน

เงินเดือนที่คุณจ่ายให้ตัวเองในฐานะกรรมการบริษัท รวมถึงเงินเดือนของพนักงานทุกคน ถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทที่นำมาหักลดหย่อนได้เต็มจำนวน

2. ค่าเช่าสำนักงาน

ค่าเช่าพื้นที่สำหรับเป็นที่ตั้งของออฟฟิศหรือสถานประกอบการ สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด โดยต้องมีสัญญาเช่าในนามบริษัทที่ชัดเจน

3. ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอินเทอร์เน็ต

ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคเหล่านี้สามารถนำมาหักได้เต็มจำนวน หากใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จรับเงินระบุเป็นชื่อของบริษัท

4. ค่าโทรศัพท์และค่าสื่อสาร

ค่าบริการโทรศัพท์รายเดือนสำหรับเบอร์ของบริษัท หรือเบอร์ที่ใช้ในการติดต่อธุรกิจโดยเฉพาะ ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

5. ค่าเดินทางและค่าน้ำมันรถ

หากมีการใช้รถยนต์ในนามบริษัทเพื่อเดินทางไปพบลูกค้า ติดต่องาน หรือขนส่งสินค้า ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน หรือค่าซ่อมบำรุง สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ (ควรมีการทำบันทึกการเดินทางประกอบ)

6. ค่ารับรองลูกค้า

ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ที่ใช้ในการเลี้ยงรับรองลูกค้าหรือคู่ค้าทางธุรกิจ สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

7. ค่าโฆษณาและการตลาด

ค่าใช้จ่ายในการโปรโมทธุรกิจ เช่น ค่าโฆษณาบน Facebook, Google, ค่าทำเว็บไซต์, ค่าพิมพ์นามบัตรและโบรชัวร์ ถือเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการสร้างรายได้โดยตรง

8. ค่าอุปกรณ์สำนักงาน

ค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองต่างๆ เช่น กระดาษ, ปากกา, หมึกพิมพ์, หรืออุปกรณ์สำนักงานชิ้นเล็กๆ สามารถลงเป็นค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมดในปีที่ซื้อ

9. ค่าบริการทางวิชาชีพ

นี่คืออีกหนึ่งรายการสำคัญ นั่นคือ “ค่าจ้าง” ที่คุณจ่ายให้กับผู้ให้บริการภายนอก เช่น ค่าทำบัญชี, ค่าสอบบัญชี, ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมาย

10. ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน

สำหรับการซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงและใช้งานได้เกิน 1 ปี เช่น คอมพิวเตอร์, เฟอร์นิเจอร์, หรือรถยนต์ คุณไม่สามารถลงเป็นค่าใช้จ่ายทั้งก้อนในปีเดียวได้ แต่สามารถนำมา “หักค่าเสื่อมราคา” เพื่อทยอยรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายได้นานหลายปี

เคล็ดลับสำคัญ: “เอกสาร” คือหัวใจ ย้ำอีกครั้งว่าทุก ค่าใช้จ่ายบริษัท จะต้องมีเอกสารหลักฐานที่ถูกต้อง เช่น ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ หรือใบเสร็จรับเงินที่ระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขายอย่างชัดเจน เพราะ “ไม่มีเอกสาร เท่ากับ ไม่มีค่าใช้จ่าย” ในทางภาษี

การทำความเข้าใจและเก็บรวบรวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้อย่างเป็นระบบ คือกลยุทธ์การวางแผนภาษีที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ การมีที่ปรึกษาบัญชีคอยให้คำแนะนำจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่พลาดทุกสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ

เเชร์โพสต์นี้
Facebook
Twitter
LinkedIn